บทความ

Riding Alone for Thousands of Miles : หนังเก่าที่เนื้อหาไม่เคยเก่า

รูปภาพ
                ทุกวันนี้ในสังคมปัจจุบันคนเรามักใส่หน้ากากเข้าหากันเพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริง ไม่แสดงความรู้สึกหรือความต้องการของเราออกมาโดยตรง ปิดกั้นความรู้สึกตนเอง โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว เลยมักจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันอยู่บ่อย ๆ และความเข้าใจผิดนั่นก็มักจะนำปัญหาตามมาในภายหลัง อาจมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรืออาจถึงขั้นเหินห่างกันไปเลยก็ได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย มันทำให้ผมนึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เพิ่งดูได้ไม่นาน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพ่อลูกที่ไม่ลงรอยกัน ปิดกั้นความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ และในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตของตัวลูกชาย คนพ่อต้องการทำอะไรซักอย่างเพื่อที่จะอุดรอยนั่น และนำเอาความสัมพันธ์แบบเดิมกลับมาให้ได้ แต่มันก็สายเกินไป เรื่องนั้นมีชื่อว่า “Riding Alone for Thousands of Miles” ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่เก่าและออกฉายมานานแล้ว แต่เรื่องราวภายในและปัญหาหลักของเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องเก่าเลย กลับกลายเป็นสิ่งที่สามารถพบเจอได้อยู่ทุกวัน              ...

บทสรุปที่ยังไม่มีข้อสรุป : ความสนุกที่ไม่มีวันตาย

รูปภาพ
Story by Sorarat Jirabavornwisut “บ้านทรายทอง” ถือเป็นงานวรรณกรรมที่ประสบความสำเร็จมากตรงวิธีเขียนเป็นสื่อรับง่าย ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงความสนุก ตื่นเต้น มีรสชาติของเนื้อหาสาระ ซึ่งสร้างอย่างประณีต คือสมบูรณ์ทั้งความเป็นไปได้ สมจริง และความงดงาม อาจมองได้ว่าแม้จะถูกแปรรูปเป็นวรรณกรรมเพื่อการแสดงอย่างภาพยนตร์ หรือละครโทรทัศน์ที่สื่อเนื้อหาสาระออกมาอย่าง “ผิดเพี้ยน ต่ำต้อย” ไปบ้าง แต่ก็เพียงพอกับความพอใจหรือความต้องการของคนส่วนใหญ่ คืออย่างน้อยก็ได้เห็นได้สัมผัสรสชาตินวนิยายในส่วนที่สัมพันธ์กับความคิดฝันของตน อาทิเช่น ความเก่งกาจและดีเป็นที่ถูกใจของนางเอก การได้ครอบครองบ้านที่มั่งคั่งหรูหรา และการครองรักกับชายในอุดมคติ เป็นต้น ความนิยมในบทประพันธ์พาฝันเรื่อง “บ้านทรายทอง” อย่างไม่เสื่อมคลาย จนถูกนำมาแปรรูปเป็นวรรณกรรมเพื่อการแสดงอื่นๆ อาทิ ละครเวที ละครวิทยุ ละครโทรทัศน์ และ ภาพยนตร์ หลายต่อหลายครั้ง กระทั่งนำมาสู่ละครเวทีเรื่อง “อลหม่านหลังบ้านทรายทอง” นั้นทำให้อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ความสนุกสนานเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนมายาวนานรุ่นแล้วรุ่น...

‘ละครอิงประวัติศาสตร์ มหรสพน้ำเน่าของชาวบ้าน’ : เสวนาเกือบวิชาการระหว่างนิสิตปริญญาโทกับป้าสารภี

รูปภาพ
Story by Sorarat Jirabovornwisut “ทำไมพระสุริโยไทไม่ตบหน้านังท้าวศรีสุดาจันทร์สักฉาด-สองฉาด ปล่อยให้มันยืนด่าฉอดๆอยู่ได้” ป้าสารภีพูดอย่างมีอารมณ์ขณะดูละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งพร้อมๆกับรีดผ้าไปด้วย “ละครเมโลดราม่าก็อย่างนี้แหละป้า มันต้องเร้าอารมณ์คนดู” ผมคุยไปกินปลาหมึกย่างไป “ไอ้เมลง-เมโลดราม่านี่มันคืออะไรวะ ?” แกหันมาถามขณะเอากระบอกฉีดน้ำพรมไปที่กางเกงยีนส์ตัวหนา ผมคิด พยายามหาคำอธิบายที่แกพอจะเข้าใจ “ก็ประมาณละครน้ำเน่าอะไรอย่างเงี้ยะ” “ไปหาว่าเรื่องของท่านน้ำเน่า ระวังเหาจะกินหัว นี่มันเรื่องของจ้าวของนายเชียวนา ทั้งพระเทียร พระไชยราชา ขุนวรวงศา ขุนพิเรนทร์นั่นก็มีอยู่จริง สงสารก็แต่พระสุริโยไท ถูกพม่ามันฟันขาดคอช้างตายเพราะช่วยพระสวามี” ป้าสารภีว่าเป็นฉากๆ “แล้วป้ารู้ได้ไงว่าเรื่องที่ป้าพูดมาเป็นเรื่องจริง ?” ผมอยาจะเอาตำราว่าด้วยวาทกรรมของมิเชล ฟูโกต์ที่บอกว่าความรู้ทุกอย่างล้วนถูกนำมาใช้เพื่อแสวงหาอำนาจมาให้แกอ่านจริงๆ “ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้น ครูบาอาจารย์ที่มหา’ลัยแกไม่สอนมั่งหรือไง” แน่ะ ! ดูแกย้อน “ก็สอน-- แต่ก็ไม่เห...